ว่านงาช้าง จัดเป็นว่านมหานิยม ที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับต้น และดอก ทั้งในกระถางตั้งหน้าบ้าน หน้าร้านค้า รวมถึงแปลงจัดสวน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล และช่วยให้ทำมาค้าขายร่ำรวย ทั้งนี้ ด้วยลักษณะเด่นทีมีใบหรือลำต้นเทียมตั้งตรง ปลายลำแหลมทำให้มีรูปร่างคล้ายงาช้าง จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อที่เรียกกันว่า ว่านงาช้าง

ประโยชน์ว่านงาช้าง
1. เนื่องจากลำต้นเทียมหรือใบมีลักษณะโดดเด่นต่างกับพืชอื่น รวมถึงดอกที่ออกเป็นช่อสวยงาม จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั้งปลูกในกระถาง และปลูกในแปลงจัดสวน ทั้งนี้ อาจปลูกประดับแบบลำต้นตั้งตรงตามธรรมชาติ หรือ ดัดบิดเป็นเกลียวพันหลายต้นเข้าด้วยกัน
2. ปลูกเป็นไม้มงคล ด้วยเชื่อว่าเป็นว่านที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลแก่คนในครอบครัว ช่วยให้ผู้คนเข้าร้านมากขึ้น ทำให้ทำมาค้าขายร่ำรวย

สรรพคุณทางยา
เหง้าหรือหัว และใบหรือลำต้นเทียมนำมาต้มน้ำดื่ม มีรสขมเล็กน้อย
– เป็นยาบำรุงโลหิต
– ใช้ขับพยาธิ
– รักษาโรคริดสีดวง
– ช่วยการอยู่ไฟของสตรีหลังคลอด ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว
– ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
ใบหรือลำต้นเทียมนำมาตำใช้ทาภายนอก
– ใช้ทาหน้ารักษาสิว
– ใช้ทาหน้าลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้หน้าเต่งตึง
– ใช้ทารักษาแผลติดเชื้อ แผลเป็นหนอง ช่วยให้แผลแห้ง และหายเร็ว
– ใช้ทารักษาอาการผดผื่นตามผิวหนัง
การปลูกว่านงาช้าง
ว่านงาช้างมักไม่ติดผล ถึงแม้จะมีดอกมาก็ตาม ดังนั้น ตามธรรมชาติของว่านงาช้างจึงขยายพันธุ์ด้วยการแตกเหง้าใหม่เป็นหลัก ดังนั้น การปลูกว่านงาช้างจะใช้วิธีแยกเหง้าปลูกเป็นหลัก ด้วยการขุดแยกเหง้าอ่อนออมาแยกปลูกเป็นต้นใหม่
การปลูกในกระถางนั้น จำเป็นต้องใช้วัสดุปลูกที่ผสมระหว่างดินกับวัสดุอินทรีย์ อาทิ ปุ๋ยคอก แกลบดำ อัตราส่วนผสมประมาณ 1:3-5 เพื่อให้มีอินทรียวัตถุมาก เพราะว่านงาช้างเป็นพืชที่เติบโตได้ดี มีลำต้นสวยงามหากดินมีความร่วนซุย และดินมีอินทรียวัตถุสูง รวมถึงดินมีความชื้นตลอดเวลา
ส่วนการปลูกในแปลง สามารถปลูกลงในแปลงได้เลยหรือให้คลุกผสมดินกับปุ๋ยคอกเสียก่อน แต่หลังการปลูกควรใส่ปุ๋ยคอกคลุมหน้าดินอย่างสม่ำเสมอ