คำถามที่มือใหม่หรือเก่ามักถามหรือประสบคือ รดน้ำไม้อวบเมื่อไหร่และเท่าไหร่ รดวิธีไหนดี คนที่ตอบก็มักตอบไปตามที่ตัวเองคุ้นเคยปฏิบัติอยู่ บางคนใช้ประสบการณ์ที่เคยปลูกดอกไม้หรือต้นไม้ทั่วๆไปมาใช้ เห็นว่าหน้าดินแห้งเลยมโนว่า พืชคงต้องการน้ำแล้วผลที่ตามมาก็คือความสูญเสีย บทความข้างล่างจะมาไขความกระจ่างให้ทุกคนได้รู้และปฎิบัติได้ถูกต้อง

ก่อนอื่นต้องทราบว่าพืชอวบน้ำ เติบโตในที่แห้งแล้ง บางพันธุ์อาศัยเพียงน้ำค้างกลางคืนเล็กน้อยก็ดำรงชีวิตอยู่ได้ พืชจะเก็บน้ำส่วนใหญ่อยู่ที่ใบเพื่อใช้สังเคราะห์แสง อีกประการ พืชอวบน้ำเป็นพืชสังเคราะห์แสงแบบ CAM (อยากรู้กลไกก็เสริดหาในกูเกิลได้ครับ) จำเพียงว่า กลางวันปากใบปิด ไม่คายน้ำกลางคืนปากใบเปิด การที่จะสามารถบอกว่ากี่วันถึงให้น้ำดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งสถานที่ที่ปลูก ภูมิอากาศ ความเข้มแสง อุณหภูมิ ความชื้น และสายพันธุ์ของแต่ละคนที่เลี้ยงมาประกอบกัน ดังนั้นก็ต้องอาศัยการสังเกตของผู้เลี้ยง โดยใช้วิธีการดังนี้
สังเกตใบพืช ดูว่ามีรอยย่นเล็กน้อยหรือไม่ แล้วมาดูที่หน้าดินว่าแห้งหรือไม่ หากหน้าดินแห้ง ให้ใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้เสียบลูกชิ้นแทงลงไปในดินปลูก ค้างไว้แป๊บ แล้วชักขึ้นมาดู ที่ปลายไม้มีความชื้นติดขึ้นมาหรือไม่ ถ้ามีน้อยมากหรือไม่มีจึงควรรดน้ำ คงกระจ่างขึ้นมาหน่อยแล้วนะครับ คำถามที่ตามมาคือ รดแค่ไหนถึงจะดี มากหรือน้อย และรดวธีไหนดี ก็จะได้คำตอบสารพัดวิธีของแต่ละคนใช้กัน มาดูโครงสร้างรากต้นพืชอวบน้ำกันดีกว่า

เห็นโครงสร้างแล้วคงกระจ่างขึ้นอีก รากโซนบนที่ใกล้ผิวดิน มีหน้าที่ไว้เพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซในดินเอาไปใช้ในกลไกเปลี่ยนเป็นอาหารของต้นไม้ รากโซนล่างคือรากที่ทำหน้าที่ชอนไชไปในดินดูดน้ำและอาหารขึ้นไป คงถึงบางอ้อกันแล้ว สมัยแรกๆที่ผมเริ่มเลี้ยง มีบางคนแนะว่า ให้น้ำทางก้นกระถางดีกว่า แล้วจากรูปก็คงจะรู้และทราบอีกใช่ไหมว่าควรให้ถึงแค่ไหนดี
จากรูป เป็นต้นไม้ที่ผมเลี้ยงอยู่ ผมให้น้ำเต็มจานรองเพียงครั้งเดียวเท่านั้น น้ำจะถูกดูดขึ้นซึมเข้าไป อาจไม่ถึงระดับครึ่งกระถางด้วยซ้ำ ผู้อ่านที่หัวไวก็คงนึกอะไรออก ถ้าเจือจางปุ๋ยลงไปสักนิด ก็
ถ้าให้น้ำมากไปจนเปียกแฉะถึงผิวดิน ผลที่ตามมาคือ ไม่บอกคงทราบนะครับ รากโซนบนไว้ทำอะไร ถ้าแฉะอยู่หลายวัน ไม่ค่อยมีก๊าซในดินให้แลกเปลี่ยน พืชคงออกอาการให้เห็น (ใบเหลืองร่วง)แต่พืชอวบน้ำเองก็มีระบบกลไกป้องกันตัวนะครับ ไม่ได้อ่อนแอแบบที่คิดกัน ทำไมต้นถึงยึด ทำไมต้นถึงบานเป็นกระโปรงซุ่มไก่ (ไว้บทความวันต่อไปนะครับ)